ปัจจุบันคนเราเริ่มเป็นห่วงเป็นใยและสนใจเรื่องราวกับเส้นผมกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องผมร่วง ผม หงอก ผมแห้ง ผมแตกปลาย ผมไร้น้้าหนัก ขาดความเงางามและไม่อยู่ทรง การที่คนเราจะมีเส้นผมที่แข็งแรงมีสีด้า สีทอง ผมหนา ผมบาง ขึ้นกับเชื้อชาติ พันธุกรรมนะครับ วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมเส้นผมของคนเราโดยปกติเจริญเติบโตได้วันละ 0.3มม.ดังนั้นภายใน 1 เดือนจะยาวได้ประมาณ 1 ซม. โดยเส้น ผมแต่ละเส้นจะยืดยาวได้ 2 ปี คือ ยาวประมาณ 36 นิ้ว หลังจากนั้นเซลล์รากผมก็จะหยุดเจริญเติบโต เส้นผมจะร่วง และ เซลล์รากผมก็จะสร้างเส้นผมขึ้นใหม่ เส้นผมบนหนังศีรษะร้อยละ 10-15 เป็นเส้นผมที่หยุดเจริญเติบโตและพร้อมที่จะร่วง เส้นผมบนหนังศีรษะมีประมาณ 120,000 เส้น และเส้นผมที่ร่วงวันละ 50-100 เส้นถือว่าปกติ แต่ถ้าศีรษะผม ค่อยๆบางลงแล้วผมยังคงร่วงจ้านวนเท่านี้ก็คงจะไม่ปกติแล้วนะครับ พูดง่ายๆ 50-100 เส้นที่ร่วงได้เป็นปกติต่อวันนั้น หมายถึงในคนที่มีผมปกติทั้งหมด 100,000-120,000 เส้นนั่นเอง
ผลิตภัณฑ์ของไลโอ LYO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ของไลโอ มีด้วยกัน 3 ผลิตภัณฑ์ คือ LYO แชมพู
LYO HAIR TONIC และ LYO ครีมนวดผม เมื่อใช้ 3 อย่างด้วยกัน จะช่วยให้เส้นผมและหนังศีรษะมีความสมดุลแข็งแรง สุขภาพดี ลดการหลุดร่วง ลดการแตกปลายของเส้นผม และชะลอผมหงอกก่อนวัยอันควร"
วิธีดูแลเส้นผมให้สะอาดสุขภาพดี การดูแลผมให้มีสุขภาพดีก็เหมือนกับผิวพรรณทั่วๆไปคือ จะต้องท้าความสะอาดเป็นอันดับแรก คนปกติควรสระผม สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยสามารถใช้แชมพูอ่อนสระผมบ่อยๆ แชมพูอ่อนมีข้อดีตรงที่ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองไม่แพ้ ง่าย จึงเหมาะส้าหรับเด็กและบุคคลทั่วไปที่ไม่มีปัญหาเรื่องหนังศีรษะการดูแลผมมันส้าหรับคนผมมัน ผมในคนที่ชอบเล่นกีฬา หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องผจญกับฝุ่นละออง สารเคมี การฟอกสี ผม พวกนี้ผมมักจะสกปรกง่าย ถ้าเป็นไปได้ควรจะสระผมทุกวัน และหากรู้สึกว่าผมแห้งกรอบจากการสระผม อาจใช้ครีม นวดผมชโลมสักเล็กน้อยก็พอ เนื่องจากโดยปกติเส้นผมมักจะมันอยู่เป็นธรรมชาติ เนื่องจากการที่ต่อมไขมันผลิตไขมัน ออกมามากเกินไป ซึ่งการสระผม การใช้โลชั่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของการรับประทานอาหาร การนวดผม ทั้งหมด ไม่มีผลในการลดการผลิตไขมันแต่อย่างใด สรุปได้ว่าคงจะต้องหาทางออกคือการสระผมบ่อยๆ บางคนอาจแนะน้าว่าควร ดัดผมสักเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ไขมันไม่สามารถไต่ขึ้นมาตามแกนเส้นผมง่ายเหมือนกับคนที่มีเส้นผมเป็นแนวตรงการดูแลผมที่เป็นรังแคส้าหรับคนที่มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับรังแค อาจต้องใช้แชมพูป้องกันรังแคที่มีส่วนผสมของ ซิงก์ไพริไทออนคีโตโคนา โซล เซเลเนียมซัลไฟด์ ไพรอคโทนโอลามีน ซัลเฟอร์รีซอร์ซินอล หรือกรดซาลิไซลิก ซึ่งรังแคมักมีสาเหตุจากเชื้อราชนิดหนึ่ง คือ “PityrosporumOvale” ซึ่งอาศัยอยู่บนหนังศีรษะและมักมีจ้านวนมากขึ้นในคนเหล่านั้น วิธีการรักษา อาจต้องสระโดยทิ้งแชมพูไว้บนศีรษะประมาณ 3-5 นาที เสร็จแล้วจึงล้างออก ความถี่ห่างของการ ใช้ขึ้นกับความรุนแรงของรังแคที่เป็น สามารถสระได้ทุกวัน ขณะเดียวกันคงต้องหาสาเหตุและปัจจัยอื่นซึ่งส่งเสริมให้รังแค เป็นมากขึ้น เช่น ความเครียด การใช้น้้ามันใส่ผม เจลแต่งผมซึ่งมันเยิ้มและเหนียวเหนอะหนะ ถ้าอาการดีขึ้นอาจจะลดระยะเวลาสระผมลงเหลือแค่วันเว้นวัน เวลาสระให้ใช้ปลายนิ้วค่อยๆถูนวดพร้อมกันไป ในขณะสระ อย่าเกาและอย่าใช้ปลายเล็บขูด เพราะว่าจะท้าให้หนังศีรษะถูกรบกวนได้ ถ้าไปสระผมตามร้านเสริมสวยควร เตรียมแชมพูไปเอง และอย่าลืมบอกให้ช่างเสริมสวยหลีกเลี่ยงการเกาหนังศีรษะแรงๆ เพราะจะเป็นผลเสียต่อเส้นผมและ หนังศีรษะ ไม่ควรใช้สบู่สระผมเพราะจะเกิดจากไคลสบู่ ซึ่งมีลักษณะเป็นตะกอนเกาะจับติดอยู่ตามเส้นผม ท้าให้ผม กระด้าง หยาบ ดูแล้วไม่เป็นประกายสดใส ส้าหรับคนที่มีปัญหาหนังศีรษะแห้งอาจใช้น้้ามันมะกอกหรืออัลมอนด์เพื่อเสริม ไขมันให้เส้นผมมองดูราบเรียบ ให้นวดเบาๆตามหนังศีรษะและเส้นผม โดยอาจทิ้งไว้ข้ามคืนจนถึงรุ่งเช้าก็สระออกให้หมด โดยใช้แชมพูปริมาณเข้มข้นสักเล็กน้อย เสร็จแล้วให้ชะล้างด้วยน้้า จุดประสงค์ของการใช้ครีมนวดผมเหล่านี้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ป้องกันไม่ให้ผมฟูกระจายไร้รูปทรง เนื่องจาก แชมพูมีประจุไฟฟ้าเป็นลบ สระแล้วผมจะกระจัดกระจายจึงควรใช้ครีมนวดผมซึ่งมีประจุเป็นบวกนวดแล้วล้างออก ทั้งนี้ เพื่อท้าให้เส้นผมแข็งแรงจัดแต่งรูปทรงง่ายและมีน้้าหนัก ส้าหรับครีมหมักผมก็มีจุดประสงค์เดียวกัน แต่ครีมหมักผมอาจ ไม่จ้าเป็นต้องใช้บ่อยเท่าครีมนวดผมคือสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็เพียงพอ