การไดร์ผม หรือการเป่าผม จะเป็นขั้นตอนหลังจากที่คุณทั้งหลายสระผมเสร็จ หลายๆคนอาจคิดว่าการเป่าผม อาจจไม่สำคัญ เป่าอย่างไรก็ได้ให้เสร็จ ก็คงพอแล้ว แต่ที่จริงแล้ว ผมจะสวยสุขภาพดีหรือไม่ดีนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากวิธีการเป่าผมให้ถูกวิธีหรือไม่ ก็เพราะว่าการเป่าผมให้แห้ง เป็นสิ่งที่ทำเป็นประจำ ถ้าเราทำด้วยวิธีที่ถูกต้อง ผมคุณจะมีสุขภาพดี "ทำไมเราต้องเป่าผม นั่นเพราะว่า เมื่อเส้นผมของเราเปียกชื้น เส้นผมจะได้รับอันตรายรอบตัวโดยง่ายกว่าผมแห้ง เพราะเวลาที่ผมเปียกจะทำให้เกล็ดผมเปิดเส้นผมจะเปราะบางมาก ดังนั้น ควรทำให้ผมแห้งอย่างรวดเร็ว และหนังศีรษะของคุณเวลาเปียก เชื้อโรคจะเข้าสู่หนังศีรษะที่ง่ายกว่า และอาจทำให้หนังศีรษะของเรามีกลิ่น นี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราต้องเป่าผม หรือทำอย่างไรก็ได้ให้ผมแห้งหลังสระผมในครั้งนี้เรามาให้ความรู้เกี่ยวการเป่าผมกันค่ะ ว่าการเป่าผมที่ถูกวิธีควรทำอย่างไร
1. การสระผม คุณควรสระผมด้วยแชมพูอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อเป็นชำระล้างเส้นผมของคุณให้สะอาด และเป็นการเตรียมเส้นผมให้พร้อมกับการเป่าให้ได้ดี อีกทั้งควรใช้ครีมนวดผมในทุกครั้งด้วย แต่ควรใช้ในปริมาณที่มีความเหมาะสม โดยให้คำนึงถึงกับความยาวของเส้นผม และความหนาของเส้นผมเป็นหลัก ซึ่งหากคุณผมยาวมาก ก็ควรใช้ครีมนวดผมในปริมาณที่มากกว่าปกติค่ะ"เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ของไลโอ LYO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ของไลโอ มีด้วยกัน 3 ผลิตภัณฑ์ คือ LYO แชมพู LYO HAIR TONIC และ LYO ครีมนวดผม เมื่อใช้ 3 อย่างด้วยกัน จะช่วยให้เส้นผมและหนังศีรษะมีความสมดุลแข็งแรง สุขภาพดี ลดการหลุดร่วง ลดการแตกปลายของเส้นผม และชะลอผมหงอกก่อนวัยอันควร"
2. การเช็ดผม
เมื่อคุณผมเปียกน้ำ ผมของคุณก็จะอยู่ในช่วงที่อ่อนแอ ดังนั้น หลักจากที่คุณสระผมเสร็จใหม่ๆ เส้นผมของคุณจะมีความเปราะบางมาก คุณไม่ควรที่จะใช้ผาขนหนูเช็ดผมแรงๆ ให้เช็ดเบาๆ ให้พอหมาดๆ แต่หากอยากให้ผมแห้งเร็ว แนะนำให้นำผ้าขนหนูผืนแห้งอีกผืนมาคลุมผมอีกชั้น แล้วใช้ไดร์เป่าลงที่ผ้าขนหนู ซึ่งวิธีดังกล่าว จะช่วยให้ผมไม่โดนความร้อนโดยตรงจากไดร์เป่าผม อีกทั้งผ้าขนหนูจะช่วยซับน้ำและกระจายความร้อนให้ทั่วศีรษะ ทำให้ผมของคุรแห้งเร็ว แถมยังไม่ทำให้ผมของคุณแห้งเสียและแตกปลายอีกด้วยค่ะ
3. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปกป้องเส้นผมจากความร้อน
เมื่อเส้นผมของคุณโดนความร้อนในความร้อนที่สูงในระหว่างที่คุณเป่าผม จะทำให้เส้นผมของคุณสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมของคุณแห้งเสีย ดังนั้น หลังจากที่คุณสระผม และก่อนที่คุณจะเป่าผม หรือไดร์ผ คุณควรมีผู้ช่วยในการป้องกันความร้อน โดยใช้สเปร์ยฉีดผมกันความร้อน เซรั่ม น้ำมันบำรุงผม หรือลีผออน เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้น และยังเข้าไปบำรุงผม ทำให้ผมนุ่มสวยเงางาม
4.การเลือกใช้ไดร์เป่าผม
ผมบาง เหมาะกับไดร์แบบเซรามิก ไดร์แบบเซรามิกจะมีสารเครือบด้านในแบบพิเศษที่ช่วยให้ความร้อนอย่าสม่ำเสมอ
ผมเส้นเล็ก เหมาะกับไตร์ที่ปรับความร้อนได้ เลือกไดร์ที่ปรับความร้อนได้หลายระดับช่วยให้ผมแห้งเร็วโดยใช้ความร้อนน้อยที่สุด
ผมแห้ง เหมาะกับไดร์แบบไอโอนิก ไดร์แบบออไอโอนิกจะปล่อยไอออนที่ทำให้ผมชุ่มชื่น ทำให้ผมดูเรียบและแข็งแรงขึ้น
ผมหยิก เหมาะกับไดรที่มีดิฟฟิวเซอร์ ดิฟฟิวเซอร์ จะช่วยให้ไอน้ำกระจายตัวได้ในวงกว้างขึ้นโดยสามารถควบคุมได้และทำให้ลอนสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
5. การเลือกใช้ลมเป่าผม
เมื่อเราเลือกไดร์เป่าผมที่เหมาะสมแล้วก็ต้องเลือกฟังก์ชั่นลมที่เหมาะสมด้วย อย่างฟังกช่ั่นลมเย็นและลมร้อนย่อมมีความสำคัญที่แตกต่างกันออก เพราะถึงแม้ลมร้อนจะช่วยให้ผมแห้งเร็วได้ก็จริง แต่ก็ทำให้ผมแห้งกรอบได้ ดังนั้น ถ้าเราเป่าก็ต้องเหมาะสมก็บเส้นผมช่วงนั้นๆด้วย เนื่องจากส่วนให้ลมร้อนจะเหมาะสำหรับการไดร์ผม ไม่ว่าจะไดร์ตรงหรือไดร์วอมลุ่ม เนื่องจากลมร้อนใช้สำหรับกำหนดรูปแบบของทรงผม เมื่อได้ทรงที่ต้องการแล้ว การเป่าปิดท้ายด้วยลมเย็น เพราะลมเย็นจะช่วยให้ผมคลายจากความร้อน และเป็นการล๊อกทรงผมให้อยู่คง
6. ควรระวังเรื่องความชื้น
ความชื้นในอากาศก็เป็นอีกปัจจัยในการทำลายเส้นผม เพราะความชื้นจะทำให้เส้นผมของคุณอ่อนแอลง และเปราะบางขาดง่าย ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความชื้น แนะนำให้คลุมผมด้วยผ้าเมื่อต้องเจอกับเส้นผม และครวทำให้ผมแห้งหลังอาบน้ำเสร็จ
7. การใช้ดรายแชมพู
ในวันที่ต้องเจอกับสภาพอากาศไม่เป็นใจ หรือวันที่ผมมันจนลีบแบน การใช้ดรายแชมพู หรือ แชมพูแห้ง จะช่วยดูดซับความมันตามธรรมชาติ และสิ่งสกปรกออกจากเส้นผม พร้อมคืนความสดชื่นให้กับเส้นผมอีกครั้งถึงแม้จะยังไม่ได้สระผมก็ตาม
8. ดูแลผมขณะนอนหลับ
การนอนบนปลอกหมอนผ้าฝ้ายอาจทำให้ผมเสียทรงได้ เพราะผ้าฝ้ายจะดูดซับความชื้นเอาไว้ ในขณะที่ผ้าไหมจะเก็บกักความชื้น ดังนั้นเมื่อคุณนอนบนปลอกหมอนผ้าไหมหรือผ้าซาติน น้ำมันจากเส้นผมก็จะยังอยู่แทนที่จะถูกดูดซึมเข้าไป จึงทำให้เส้นผมมีน้ำมันหล่อเลี้ยง และไม่แห้งเสีย ซึ่งส่งผลดีต่อเส้นผมโดยเฉพาะเส้นผมที่ชี้ฟูได้ง่าย
9. อย่าใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากเกินไป
ถึงแม้ว่าการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เช่น มูส สเปรย์ หรือ เจล จะช่วยทำให้ผมอยู่ทรงสวย แต่หากใช้มากเกินจำเป็นก็อาจเป็นการถ่วงน้ำหนัก และทำให้ผมลีบแบนลงได้ ดังนั้น ควรเริ่มต้นใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณน้อย และแบ่งผมเป็นส่วนๆ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์กระจายตัวทั่วเส้นผมในปริมาณที่เหมาะสม